Booking Information

ในหัวข้อนี้จะเป็นรายละเอียดเพื่ออธิบายข้อมูลทีสำคัญของข้อมูลการจองและการทำงานต่างๆ ของระบบการจองตามที่กริ่นมาก่อนหน้านี้แล้ว
ซึ่งในหน้ารายละเอียดของระบบการจองจะประกอบไปด้วย

  1. Booking Information จะเป็นรายละเอียดข้อมูลของลูกค้า
  2. Tax Invoice รายละเอียดใบกำกับภาษีถ้าลูกค้าขอ
  3. Booking Status สถานะการจอง
  4. Payment Status สถานะการชำระเงิน
  5. Source / Agent / Sale / Customer ระบุจองดังกล่าวดังกล่าวเป็นของ Source ไหน, Agent ใด, Sale ท่านใด, Customer รายไหน
  6. Booking Item รายการและรายละเอียดการจอง
  7. Payment Transaction รายการชำระเงิน
  8. History ประวัติการของข้อมูลการจอง
  9. Message Box ประวัติการส่งเมล์หาลูกค้า

รายละเอียดการจอง (Booking Information)

ซึ่งในส่วนของรายละเอียดการจอง (Booking Information) จะประกอบด้วย

  1. Title (คำนำหน้า)

  2. First Name (ชื่อจริง)

  3. Last Name (นามสกุล)

  4. Email Address (อีเมล์ที่ใช้ในการส่งหลักฐานการจอง/ติดต่อกับลูกค้า)

  5. Mobile Phone (เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อกับลูกค้า)

  6. Nationality (สัญชาติ)

  7. Country (ประเทศ)

  8. Special Request (ที่อยู่ของลูกค้า)

  9. Special Request (รายละเอียดที่ลูกค้าขอเพิ่มเติมถ้ามี)

รายละเอียดใบกำกับภาษี (Tax Invoice)

และในส่วนของหัวข้อใบกำกับภาษี (Tax Invoice) ถ้าลูกค้าต้องการใบกำกับภาษีจะประกอบด้วย

  1. Tax Invoice (Name / Company Name) ให้กรอกชือลูกค้าหรือชื่อบริษัทของผู้เสียภาษี

  2. Tax Invoice (Tax ID Number) ให้กรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

  3. Tax Invoice (Phone) ให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียภาษี

  4. Tax Invoice (Address) ให้กรอกที่อยู่ของผู้เสียภาษี

รายละเอียดสถานะการจอง (Booking Status)

จะบอกสถานะการจองว่า ณ ปัจจุบันมีสถานะอย่างไร ถ้าต้องการเปลี่ยนสถานะการจองสามารถทำได้โดยคลิกที่ปุ่ม เพื่อทำการแก้ไขสถานะการจองตามรูปด้านล่าง

ระบบจะแสดงหน้าต่าง "Change Booking Status" ตามรูปด้านล่างเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขและบันทึกข้อมูล

จากนั้นให้เลือกสถานที่ต้องการปรับเปลี่ยนแล้วกดปุ่ม "Save" เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงสถานะหรือกดปุ่ม "Cancel" เพื่อยกเลิกการแก้ไข

Booking Status

สถานะการจองในระบบจะมีทั้งหมด 6 สถานะได้แก่

  1. Error หมายถึงข้อมูลการจองพบข้อผิดพลาดบางประการ
  2. Pending หมายถึงข้อมูลการจองดังกล่าวข้อมูลยังไม่เรียบร้อย
  3. Canceled หมายถึงข้อมูลการจองดังกล่าวลูกค้าขอยกเลิกบริการ
  4. Reject หมายถึงข้อมูลการจองดังกล่าวทางร้านค้าขอยกเลิกบริการ
  5. Confirm หมายถึงข้อมูบการจองดังกล่าวเสร็จสมบูรณพร้อมให้บริการ
  6. No Show หมายถึงข้อมูลการจองการจองดังกล่าวลูกค้าไม่มาใช้บริการตามวันและเวลาที่กำหนด

รายละเอียดสถานะการชำระเงิน (Payment Status)

จะบอกสถานะการชำระเงินของหมายเลขการจองว่า ณ ปัจจุบันมีสถานะชำระเงินสำเร็จหรือไม่อย่างไร ซึ่งถ้าหาต้องการเพิ่มรายการชำระเงินหรือเปลี่ยนสถานะการชำระเงินให้ข้ามไปดูที่หัวข้อ Payment Transaction

รายละเอียด Source, Salesperson, Agent & Partner, Customer

ใช้สำหรับกำหนดรายละเอียดเพื่อให้ทราบว่ารายการจองดังกล่าวจองมาจากช่องทางใด (Source) โดยพนักงานขายหรือผู้ดูแลคนไหน (Salesperson), มาจากตัวแทนหรือพาร์ทเนอร์บริษัทใด และเป็นลูกค้า/กลุ่มลูกค้าใด เพื่อนำไปใช้ในการทำรายงานเพื่อวิเคราะห์ต่อไปได้
ตามรูปตัวอย่างด้านล่าง

วิธีใช้ให้คลิกที่ปุ่ม ในหัวข้อ Source, Salesperson, Agent & Partner, Customer ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงจากนั้นจะปรากฎรายการให้เลือกหรือพิมพ์ลงในช่องข้อความเพื่อค้นหาข้อมูลแล้วเลือกรายการที่ต้องการ

ถ้าหากไม่พบรายการที่ต้องการหรือต้องการสร้างรายการให้ไปดูรายละเอียดเรื่องการจัดการเรื่อง

  • Source
  • Salesperson
  • Agent & Partner
  • Customer

หมายเหตุ

  1. การแก้ไขทั้งหมดที่กล่าวมาขั้นตอนจะไม่ถูกบันทึกลงในระบบจนกว่าผู้ใช้งานจะปุ่ม "Save" ที่เมนูด้านบนตามรูป
  2. หากไม่เห็นปุ่ม "Create New Item" หรือ "Create New Payment" เนื่องจากผู้ใช้ยังไม่ได้กดปุ่ม "Save" ตามข้อ 1. ซึ่งทำให้ยังไม่สามารถสร้างรายการให้หัวข้อ (Booking Item) และรายการชำระเงิน (Payment Transaction) ได้
  3. เมื่อทำการบันทึกเสร็จระบบจะแสดงหมายเลขการจอง BOOKING ID ซึ่งหมายเลขดังกล่าวจะประกอบไปด้วยข้อมูล ปี, เดือน, วัน, ตัวเลขรันนิ่งจากระบบ (YYYYMMDD######) จากตัวอย่างในรูปจะเป็นหมายเลข 201803302 พร้อมระบุเวลาที่ได้ทำการสร้างรายการจอง

results matching ""

    No results matching ""